สารที่จำเป็นสำหรับการสร้าง COLLAGEN - วิตามินซี

มีกรดอะมิโนทั่วไปสามชนิดที่เกี่ยวข้องกับการให้ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว

ไกลซีน โพรลีน ยูซีทูคืออะไร และไฮดรอกซีโพรลีนคือสารเหล่านี้ และจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มีเพียงกรดอะมิโนเหล่านี้เท่านั้นที่สามารถสกัดออกเป็นสามหรือห้าประเภท และเทคโนโลยีก็ล้ำหน้ามาก

ด้วยเหตุนี้ คอลลาเจนจึงมีอยู่หลายสิบชนิด และราคาก็ต่างกันมากเช่นกัน

ดังนั้นสำหรับคอลลาเจนทั่วไปคอลลาเจนที่ละลายน้ำได้ซึ่งมีน้ำหนักโมเลกุลน้อยกว่า 4,000 ถูกใช้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและคอลลาเจนเปปไทด์ที่สกัดจากกรดอะมิโนเพียง 3-8 ตัวเท่านั้นที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ราคาแพงบางชนิดเท่านั้น

ดังนั้น เพื่อที่จะเห็นผลของการใช้เครื่องสำอางคอลลาเจนที่ละลายน้ำได้ คุณจะสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์เมื่อคุณใช้เครื่องสำอางที่มีความเข้มข้นสูงเท่านั้น

เนื่องจากคุณจะสัมผัสได้ถึงผลกระทบของกรดอะมิโนที่เกี่ยวข้องกับความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวในคอลลาเจนที่มีความเข้มข้นสูง

'คอลลาเจน' คือการรวมตัวของกรดอะมิโน

คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ผลิตโดยกรดอะมิโนในร่างกายและคิดเป็น 30% ของโปรตีนในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีมากในผิวหนังและกระดูก และ 70% ของโปรตีนผิวหนังและ 50% ของกระดูกอ่อนประกอบด้วย 'คอลลาเจน'

คอลลาเจนอยู่ระหว่างเซลล์และเชื่อมต่อประมาณ 60 ล้านล้านเซลล์ในร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ คอลลาเจนยังมีบทบาทใน:

ขั้นแรกให้สร้างอวัยวะ

ประการที่สอง ปรับการทำงานของเซลล์

สาม ห้ามเลือด

ประการที่สี่ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน

คอลลาเจนเพิ่มภูมิคุ้มกันหรือไม่?

ความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันหมายถึงปฏิกิริยาการป้องกันที่ร่างกายใช้กับสารแปลกปลอมที่บุกรุกร่างกาย จากการทดลองในสัตว์ทดลองโดยแพทย์ชาวญี่ปุ่น Yoshisuge Enoki ยูซีทู Collagen พบว่าแม้ว่าเซลล์มะเร็งจะถูกปลูกถ่ายเป็นหนูที่ฉีดคอลลาเจน มะเร็งก็ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในร่างกาย

‘คอลลาเจน’ คือกลุ่มของกรดอะมิโน 18 ชนิด และองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด กล่าวคือ ลำดับการเชื่อมโยงของกรดอะมิโนนั้นแตกต่างกัน

ดังนั้น 'คอลลาเจน' ที่ใช้ในการทดลองจึงเป็นสารแปลกปลอมสำหรับหนู

เมื่อ 'คอลลาเจน' จากสัตว์อื่นเข้าสู่ร่างกายของหนู ปฏิกิริยาที่แยกสารแปลกปลอมออกจะรุนแรงขึ้น

เมื่อเซลล์มะเร็งถูกปลูกถ่ายในสภาวะดังกล่าว คิดว่าร่างกายของหนูจะแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อมะเร็งอย่างรุนแรง สาเหตุที่มะเร็งแพร่กระจายได้ไม่ดีนักก็เพราะว่าความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นด้วย 'คอลลาเจน'

คอลลาเจนและรังสียูวี

ชนิดของรังสีอัลตราไวโอเลต

ประมาณ 6% ของแสงที่กระทบพื้นผิวโลกจากดวงอาทิตย์เป็นแสงอัลตราไวโอเลตที่มองไม่เห็น

รังสีอัลตราไวโอเลตสามารถแบ่งออกเป็นคลื่น C คลื่น B ​​และคลื่น A ตามลำดับความยาวคลื่นสั้น ๆ

คลื่น C มีพลังมากจนทำลายยีนและเรียกอีกอย่างว่ารังสีนักฆ่า แต่พวกมันถูกดูดซับโดยชั้นโอโซน ดังนั้นพวกมันจึงไม่ค่อยไปถึงพื้นผิว

คลื่น B ​​ส่งผลกระทบต่อผิวหนังในเวลาอันสั้น ทำให้เกิดการฟอกหนังพร้อมกับการอักเสบ

หากคุณไม่ทาครีมกันแดด คุณจะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่เนื่องจากความยาวคลื่นสั้น ครีมกันแดดไปไม่ถึงผิวหนังชั้นหนังแท้ และสามารถปิดกั้นได้แม้ผ่านหน้าต่าง

คลื่น A เป็นความยาวคลื่นที่อ่อนที่สุด แต่คิดเป็นมากกว่า 90% ของปริมาณรังสียูวีทั้งหมด ดังนั้นแม้ในสภาพอากาศที่มีเมฆมาก คลื่นจะไปถึงพื้นผิวและไม่ถูกหน้าต่างหรือผ้าม่านบัง คลื่น A นี้มีความยาวคลื่นยาวถึงชั้นหนังแท้ ทิ้งเม็ดสีเมลานินไว้

Wave A ยังเป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้าและริ้วรอย

คอลลาเจนที่เสื่อมสภาพจากรังสียูวี

เมื่อได้รับคลื่น A จำนวนมาก ออกซิเจนที่ใช้งานจะถูกสร้างขึ้นในเซลล์ ซึ่งจะทำลายเยื่อหุ้มเซลล์หรือเปลี่ยนเส้นใยคอลลาเจนซึ่งเป็นที่มาของความยืดหยุ่นของผิว

ความแก่ของผิวที่เกิดจากรังสียูวีนั้นแตกต่างจากความชราที่เกิดจากอายุ อยู่กลางแจ้งนานๆ? เหตุผลที่คนที่มีชีวิตอยู่ดูแก่กว่าวัยก็เพราะความชราที่เกิดจากแสงอัลตราไวโอเลตนี้ ในผิวหนังชั้นหนังแท้ที่ได้รับคลื่น A คอลลาเจนที่รับผิดชอบต่อความยืดหยุ่นของผิวจะถูกทำให้เสียสภาพและกลายเป็นคอลลาเจนชนิดแข็งที่เรียกว่าคอลลาเจนที่ไม่ละลายน้ำ

เมื่อคอลลาเจนที่ไม่ละลายน้ำเพิ่มขึ้น ผิวจะสูญเสียความยืดหยุ่นหรือความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้น ส่งผลให้ริ้วรอยและความยืดหยุ่นลดลง